Smart home , Home Automation , Lighting Control

ช่วงสงกรานต์หยุดยาวเกือบสิบวันของปีนี้ หลายคนวางใจ "ฝากบ้านไว้กับตำรวจ" บางคนฝากบ้านไว้กับธนาคาร แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบ้านที่ไม่มีคนอยู่นั้นง่ายต่อการสังเกตของโจรขโมย บางทีการมี "บ้านอัจฉริยะ" ที่มีระบบเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเสมือนมีคนอาศัย อาจเป็นอีกทางออกในการป้องกันการโจรกรรม

       อย่างไรก็ดี การสร้าง "บ้านอัจฉริยะ" หรือ "สมาร์ทโฮม" (Smart Home) นั้นไม่ง่ายนัก เพราะต้องลงทุนด้วยตัวเลขไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลัก เพื่อวางระบบภายในบ้านที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ และต้องทำพร้อมๆ กับการสร้างบ้านใหม่ หากแต่เทคโนโลยีง่ายๆ ของคนไทยอาจช่วยตอบโจทย์ความต้องการของเราได้

       เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ธีรชัย องค์วิเศษไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อี-สไตล์ จำกัด ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบระบบบ้านอัจฉริยะ ซึ่งทำให้เขาได้เห็นจุดอ่อนของระบบที่ไม่เข้ากับวิถีชีวิตคนไทย โดยเขาบอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า การสร้างบ้านอัจฉริยะนั้นต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าหลักล้าน เนื่องจากต้องวางระบบที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และต้องทำพร้อมๆ กับบ้านที่กำลังสร้าง

       “สมาร์ทโฮมจริงๆ นั้นต้องใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม แต่ไม่เหมาะกับวิถีชีวิตคนไทย เพราะใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม เมื่อคอมพิวเตอร์รวนขึ้นมา ยูสเซอร์งงไปเลย อีกทั้งการติดตั้งยังลำบาก ช่างคนไทยไม่สามารถติดตั้งได้ง่าย เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะจึงเหมาะสำหรับลูกค้าไฮเอนด์ เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีง่ายๆ ที่ใกล้ตัวคนไทย และอยากให้คนไทยมีบ้านสมาร์ทโฮม แม้จะสร้างบ้านแล้วหรือมีงบแค่หลักพัน บ้านอัจฉริยะของบริษัท อี-สไตล์มีเทคโนโลยีหลักๆ 2 เทคโนโลยี คือ 1.รีโมต และ2.สวิตช์ตั้งเวลา" ธีรชัยกล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์

       เทคโนโลยีรีโมทนั้นเป็นเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ทั้งบ้าน ซึ่งรวมถึงใช้สำหรับเปิดประตูรั้วและประตูอื่นๆ ในบ้าน โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นเล็กที่ควบคุมได้ 4 อุปกรณ์ รุ่นกลางควบคุมได้ 15 อุปกรณ์ และรุ่นใหญ่ควบคุมได้ 20 อุปกรณ์ ซึ่งรีโมทนี้จะใช้ควบคู่กับตัวรับสัญญาณวิทยุที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ที่ต้อง การควบคุมด้วยรีโมต และสามารถรับสัญญาณได้ไกล 25-30 เมตร

       “สำหรับเทคโนโลยีรีโมตนี้ เรามีสโลแกนว่ารีโมตเครื่องเดียวคุมได้ทั้งบ้าน ใช้เปิด-ปิดได้ตั้งแต่ประตูรั้ว ประตูห้องรับแขก ประตูห้องนอน จนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านต่างๆ เช่น โคมไฟฟ้าที่หัวเตียง พัดลม เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น เพียงนำตัวรับสัญญาณไปต่อที่ปลั๊กเสียบ และตั้งปุ่มรีโมตให้ตรงกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กำหนดให้เบอร์ 1 แทนปุ่มเปิดประตู, เบอร์ 2 แทนปุ่มเปิดไฟที่โรงรถ หรือ ปุ่ม 3 แทนปุ่มเปิดเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น” ธีรชัยอธิบายการทำงานของรีโมตควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า

       ทั้งนี้ เราสามารถใช้งานรีโมตควบคุมเครื่องใช้ที่ตำแหน่งใดของบ้านได้ โดยไม่ต้องเข้าใกล้แล้วจ่อรีโมตไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ เพียงแค่อยู่ในตำแหน่งรัศมีที่รีโมตสามารถส่งสัญญาณคลื่นวิทยุไปยังเครื่อง ใช้ไฟฟ้า ซึ่งสัญญาณวิทยุนี้สามารถส่งข้ามกำแพงหรือผนังบ้านได้ เราจึงควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านจากจุดใดของบ้านก็ได้

       ส่วนสวิตซ์ตั้งเวลานั้นถูกออกแบบมาให้มีขนาดใกล้เคียงกับสวิตช์ไฟฟ้า ทั่วไป คือ มีขนาด 2x4 นิ้ว จึงสามารถติดตั้งแทนกันได้ และกำหนดให้ทำงานแบบอัตโนมัติหรือกำหนดให้ทำงานแบบตั้งเวลาได้ โดยมีปุ่มให้เลือกว่าจะใช้งานแบบใด

       “สวิตช์ซ์ตั้งเวลานี้ใช้ควบคุมการเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภาย ในบ้าน มีประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่กลับบ้านดึกไม่ต้องกลัวกลับมาถึงบ้านมืดๆ เราสามารถตั้งเวลาให้เปิดไฟไว้ได้ หรือช่วงสงกรานต์ที่เราไม่อยู่บ้านนานๆ สามารถควบคุมเวลาเปิด-ปิดไฟในบ้านให้เหมือนมีคนอยู่ เพื่อป้องกันการโจรกรรมได้ ซึ่งสวิตช์ไฟนี้ใช้แทนสวิตซ์ไฟบ้านได้เลย สามารถเลือกได้ว่าจะตั้งเวลาหรือใช้งานแบบเปิด-ปิดตามปกติได้" ธีรชัยอธิบายการทำงานของสวิตซ์ตั้งเวลา

       ไม่เพียงแค่เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นอัจฉริยะ แต่ธีรชัยระบุว่าอุปกรณ์ของอี-สไตล์นั้นช่วยภาคธุรกิจให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ลงได้ อย่างเช่นโรงพยาบาลซึ่งมีเครื่องปรับอากาศและหลอดไฟให้ความสว่างจำนวนมาก แต่ละเดือนจึงมีภาระค่าไฟฟ้าหลายล้านบาท และหากลืมปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวน มาก หรือร้านสะดวกซื้อที่มีจำนวนสาขามากทั่วประเทศ หากนำสวิตซ์ตั้งเวลาไปใช้กำหนดเวลาเปิด-ปิดป้ายไฟของร้าน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการลืมปิดไฟลงได้มากเช่นกัน

       กรรมการผู้จัดการอี-สไตล์กล่าวว่า เทคโนโลยีสวิตซ์ตั้งเวลานี้จะช่วยประหยัดไฟในอาคารได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ตั้งเวลาเปิด-ปิดระบบเครื่องปรับอากาศและระบบไฟฟ้าในอาคาร ใหญ่ และเทคโนโลยีนี้ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ออกแบบโดยคนไทย ผลิตในโรงงานของไทย อีกทั้งได้รับอนุสิทธิบัตรแล้ว และจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ Homexpert นอกจากอุปกรณ์หลักๆ 2 อย่างที่ระบุไปแล้วนั้น อี-สไตล์ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับติดตั้งที่ประตูรั้วบ้าน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานควบคู่กับรีโมตควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า

       ทั้งนี้บริษัทอี-สไตล์ได้พัฒนาและผลิตอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะมาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว โดยเริ่มได้ทำตลาดตามจังหวัดใหญ่ๆ ในภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต เป็นต้น และวางขายในห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด และในช่วง 2 ปีหลังนี้ทางบริษัทหันมาทำตลาดในกรุงเทพฯ มากขึ้น รวมถึงเริ่มเปิดตัวและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ และนอกจากจัดจำหน่ายภายในประเทศแล้ว ยังส่งออกอุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไทย เช่น ลาว พม่าและเวียดนาม เป็นต้น

       “หลักการบ้านอัจฉริยะของเราเน้นความง่าย และทำให้บ้านธรรมดาทำงานได้อัตโนมัติและสะดวกสบายขึ้น สิ่งที่เราทำต่างไปจากที่อื่น ซึ่งคนทั่วไปจะนึกถึงสินค้าราคาสูง และต้องทำระบบพร้อมกับบ้านที่กำลังสร้าง แต่เราเน้นสินค้าที่ใช้ได้กับบ้านที่เสร็จแล้ว ลงทุนไม่เยอะ มีทุนแค่หลักพันก็ทำได้ จ่ายเงินไปแล้วได้ใช้งานระบบจริงๆ เป็นการฉลาดใช้ ฉลาดซื้อและฉลาดเลือก" ธีรชัยกล่าว

ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

Smart home , Home Automation , Lighting Control

หน้าเว็บ

Home Automation at works

รีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า 12 จุด

ตัวอย่างการทำงานของสัญญาณกันขโมย